National Book Fair งานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 20 กับโปรโมชั่นหนังสือดีๆ ที่น่าจับตามอง
- artitaya.brees
- Oct 27, 2015
- 1 min read
Updated: May 26, 2018
สวัสดีชาวโลกที่น่ารัก เมื่อวานเราไปงานสัปดาห์หนังสือเลยเก็บภาพบรรยากาศเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ภาพแต่เรายังมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจตัวหนึ่งมาแนะนำด้วย จะเป็นอะไรนั้นต้องติดตามอ่านจนจบนะ สำหรับงานสัปดาห์หนังสือปีนี้ก็ยังคลึกคลืนเหมือนเดิมถึงแม้จะไปช่วงเที่ยงแต่คนก็เยอะเหมือนกัน ก่อนมางานเราจดชื่อและที่อยู่บูทเอาไว้กันลืม แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็แวะไม่ครบ อันนี้คงเดาได้ไม่ยากเนื่องจากงบที่เตรียมมาอย่างดีได้หมดลงไปกลับหนังสือโปรโมชั่นดีๆ ที่นานๆ จะเจอที นี้แหละน่างานสัปดาห์หนังสือ นี้ๆ ถ้าใครชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ เราเจอโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ด้วยน่ะที่ Bookazine โซน C2 บูท Q15 มีหนังสือให้เลือกค่อนข้างเยอะเหมือนกัน มีตั้งแต่เล่มที่พึ่งออกมาใหม่ช่วงกลางปีไปจนถึงหนังสือขายดียอดนิยม แต่ต้องใช้เวลาหากันสักหน่อยเพราะมันเยอะ นอกจากนี้ด้านหลังยังมีโปรโมชั่นซื้อ 2 ฟรี 1 ด้วยนะเออ ลดราคาตั้งแค่ 30% - 60% กันเลยทีเดียว

เผื่อใครไม่รู้จัก Bookazine มันก็คือร้านขายหนังสือของ Asiabooks ดีๆ นี้เอง อันนี้เราก็ไม่ค่อยรู้มากนักแต่ว่ามันคือเจ้าเดียวกัน ถ้าใครมีบัตรสมาชิกของ Asiabooks ก็จะเห็นโลโก้ของ Bookazine อยู่บนบัตรด้วย และแน่นอนว่าหนังสือกองโตนั่นน่ะก็มาจากร้าน Asiabooks เนี่ยแหละ แต่สภาพหนังสือไม่ได้ใหม่ 100% หรอกนะ ส่วนใหญ่เลยนะส่วนใหญ่จะยับตรงมุมหนังสือ ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้อะไรมากมายกับรอยยับก็ถือว่าเป็นโอกาศดีที่จะได้หนังสือในราคาเบาๆ ไปอ่านกับแบบเต็มถุง

อันนี้บูทที่อยู่ตรงข้ามกัน บูทนี้มีหนังสือเฉพาะทางน่าสนใจเต็มเลยแถมราคายังถูกเอามากๆ อีกด้วยนะ มีหนังสือเรียน หนังสือทำอาหาร หนังสือรวมรูป ไปจนถึงหนังสือแนวออกแบบสร้างบ้านกันเลยทีเดียว บูทข้างๆ อีกบูทก็น่าสนใจนะ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังเรียนภาษาจีนอยู่น่าจะชอบ เพราะเราเองก็ไปซื้อหนังสือฝึกอ่านภาษาจีนจากบูทของบริษัทนานมีมาเหมือนกัน หนังสือภาษาจีนทุกเล่มลด 20%

ในบูทก็มีตั้งแต่หนังสือภาษาไทยไปยันภาษาจีน โดยส่วนมากจากที่เราเห็นหนังสือภาษาจีนนำเข้ามาจากประเทศจีน ไต้วัน ฮ่องกง ภาษาจีนล้วนๆ บางเล่มก็มีพินอินเขียนกำกับมาให้ด้วย มีหนังสือเรียนภาษาจีนทั้งสำหรับเด็กเล็กไปจนถึงเด็กโต แล้วก็มีนิทานภาษาจีนเยอะมาก รูปภาพสีสันน่าอ่าน สำหรับนิทานจะมีพินอินเขียนมาให้ด้วย ถือว่าเหมาะกับเด็กๆ และคนที่กำลังเรียนภาษาจีนเป็นอย่างมาก

คราวนี้เรามาดูโซนหนังสือภาษาไทยกันบ้างดีกว่า ปีนี้เรานำภาพจากบูทของมติชนมาฝาก เพราะมันสะดุดตามากและหนังสือน่าอ่านๆ เต็มไปหมดเลยแล้วพี่ๆ พนักงานก็น่ารักเป็นกันเองมาก สำหรับบูทของมติชนส่วนใหญ่จะเหมาะกับเด็กโตและผู้ใหญ่มากกว่า เพราะหนังสือส่วนใหญ่อย่างที่เรามักเห็นกันตามร้านหนังสือ มันไม่ค่อยมีแนวที่เด็กอ่านสักเท่าไร อย่างน้อยก็แค่หนังสืออ่านออกเวลาบางเล่มเท่านั้น หนังสือลด 20% เช่นกัน

ใกล้ๆ กันนี้ยังมีโซน Book Wonderland ที่รวมเหล่าโอตาคุเอาไว้ด้วย เสียดายเราดันลืมถ่ายรูปมาเพราะมัวแต่ชื่นชมการ์ตูนมากไปหน่อย ก็น่ะอะไรๆ ก็โมเอ๊ะ โมเอะไปเสียหมด มีทั้งหนังสือการ์ตูน ไลท์โนเวท แล้วก็พวกของสะสมและของใช้ลายการ์ตูนต่างๆ ส่วนมากจะเป็นรูปจากการ์ตูนเรื่อง Sword Art Online ก็แม้ทั้งสนุกทั้งมันส์ซะขนาดนี้จะไม่ให้มีของใช้ลาย Sword Art Online ได้อย่างไร จริงไหม ส่วนใครที่ชอบอ่านหนังสือของสำนักพิมพ์เซนชู บูทของเซนชูก็อยู่ตรงนั้นเลย มีบูทของโรสมีเดียด้วยนะเผื่อใครอยากได้การ์ตูนเรื่องใหม่กลับไปดู มาตรง BooK Wonderland ที่เดียวได้ครบเครื่องเรื่องการ์ตูน อย่าลืมแวะไปกันนะ ไม่งั้นจะเสียใจ ทีนี้มาดูกิจกรรมหลักของปีนี้กันบ้าง นิทรรศการ การ์ตูนตายแล้ว? เนื่องจากใกล้เวลากลับบ้านเลยเดินไปดูแค่บางส่วนเท่านั้น โดยรวมก็เกี่ยวกับการ์ตูนนั้นแหละ แต่จะมีอยู่มุมหนึ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือตรงมุมขวาสุดของงานจะเป้นที่แสดงผลงานภาพวาดของผู้เข้าชมงาน แต่ละภาพก็สวยและน่ารักเอามากๆ นี้เป็นภาพบางส่วนที่เอามาฝาก





และตามที่สัญญากันไว้นั่นก็คือเรื่องเทคโนโลยีที่จะมาแนะนำ เพื่อนๆ รู้จัก E-reader กันหรือป่าว ก็คล้ายๆ กับที่คนส่วนใหญ่อ่านบน Ipad และ Kindle เครื่องที่มาแนะนำวันนี้ชื่อ BOOK จาก B2S บ้านเรานี้เอง หน้าตาเจ้า BOOK จะคล้ายกับ Kindle แต่พิเศษหน่อยตรงที่ใช้ระบบ Android 4.2 ซึ่งเเพื่อนๆ สามารถดาวโหลดแอพต่างๆ เข้ามาไว้ในตัวเครื่องได้ แต่เราว่าน่าจอมันเล็กไปหน่อยถ้าเทียบกับ Kindle เพราะเราใช้ Kindle อยู่เลยให้ความรู้แตกต่าง ถึงหน้าจอ BOOK ขนาด 6 นิ้ว จะเล็กไปนิดนึงแต่อ่านหนังสือได้สะดวกอยู่น่ะ การ์ตูนก็อ่านได้ชัดเจน ตัวเครื่องยังสามารถเปิดปิดไฟหน้าจอได้ด้วย แต่เราไม่มั่นใจว่าตอนที่อยู่ในที่ที่มีแสงน้อยพอเปิดไฟแล้วจะสว่างมากหรือป่าว แต่แค่ทำให้อ่านได้ก็น่าจะพอแล้ว สำหรับใครที่อยากรู้ความจุตัวเครื่อง เจ้า E-reader เครื่องนี้มาเต็ม 8 GB กันเลยทีเดียว ให้พื้นที่มาเยอะมากๆ แต่ที่ให้มาเยอะเพราะสามารถดาวโหลดแอพได้เนี่ยแหละ แถมยังใส่ SD Card ได้สูงสุดที่ 32 GB สามารถสัมผัสหน้าจอได้ แต่หน้าจอขาวดำนะ ถนอมสายตาด้วยเทคโนโลยี E-INK และแบตเตอรี่สามารถใช้ได้นานสูงสุดถึงสองสัปดาห์กันเลยทีเดียว ยิ่งน้ำหนักตัวเครื่องยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะมันเบามาก น้ำหนักน้อยกว่า 200 กรัม พกพาไปไหนมาไหนสะดวก ถืออ่านก็ไม่เมื่อยมืออีกด้วย ส่วนราคาอยู่ที่ 4,500 บาท จากราคาเต็ม 5,990 บาท

Comments