Review: เหนื่อยชั่วคราว สบายชั่วโคตร โดย พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์

สวัสดีค่ะ กลับมาอับเดทความคืบหน้ากันหน่อย ล่าสุดนี้ทำงานเยอะไปหน่อยเวลานอนและเวลาที่ต้องอ่านหนังสือเลยไม่ค่อยจะมี แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเราก็เลยใช้วันจันทร์ซึ่งเป็นวันหยุดอ่านหนังสือจบไปหนึ่งเล่มจนได้ ฮาๆ รู้สึกมีความสุขมากเลยนะเนี่ยจะบอกให้ เมื่อเห็นชื่อหนังสือแล้วบางคนอาจจะอ๋อ เพราะเคยอ่านหรือรจำได้ว่าคนเขียนหนังสือเล่มนี้คือพิธีกรและดาราดังของเมืองไทยนั้นเอง

โดยส่วนตัวแล้วเราว่าอ่านหนังสือเล่มนี้ก็ไม่เลวนะ ถึงแม้เนื้อหาจริงที่อยากรู้มันจะน้อยไปหน่อย แต่ก็สามารถอ่านได้ลื่นไหลดี อารมณ์แบบอ่านได้เรื่อยๆ ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเกิดอาการเบื่อซะก่อน เรื่องของเรื่องก็คืออยากรู้ว่าคุณพอลจะอธิบายเรื่องเกษียณเร็วและรวยอย่างไร และเราก็ได้คำตอบดีๆ กลับมาจากการอ่านหนังสือของเขาด้วย มาดูกันดีกว่าว่าในเล่มนี้บอกอะไรเราบ้าง

ก่อนอื่นเลยเขาบอกให้เราฝันใหญ่ไว้ก่อน ฝันอยากเป็นอะไร อยากได้อะไรก็เขียนลงไปโดยมีการแยกระดับความฝันด้วยนะ มีระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น

ระยะสั้น: อยากซื้อหนังสือเพิ่มอีกสัก 10 เล่ม

ระยะกลาง: ไปเที่ยวสิงคโปร์

ระยะยาว: ซื้อรถสักคัน

ข้อดีของการเขียนความฝันหรือสิ่งที่เราอยากได้นั้นก็ดีเหมือนกันนะ เพราะเวลาที่เรากลับมาเปิดดูและเห็นว่าทำสำเร็จไปบ้างแล้วก็ทำให้ยิ้มหน้าบานได้ทั้งวัน แต่ถ้าไม่ได้เขียนเอาไว้แค่เดือนเดียวก็ลืมหมดแล้วว่าฝันอะไรหรืออยากได้อะไรบ้าง และนหนังสือคุณพอลยังกล่าวว่า "ทำไมเราไม่เรียนเรื่องเงินตั้งแต่แรกให้ถูกวิธีแล้วจบเลย เพราะมันมีประโยชน์ไม่ว่าเด็กโตขึ้นมาแล้วอยากจะมีอาชีพอะไรก็ตาม" เราเองก็เห็นด้วยนะ เพราะเราทำงานด้วยเรียนไปด้วยและผ่านอะไรมาเยอะก็เลยเข้าใจตรงจุดนี้ดี เพราถ้าเรารู้และเข้าใจเรื่องเงินตั้งแต่เด็ก ไม่แน่โตขึ้นมาเด็กๆ เหล่านั้นอาจจะมีรายรับเดือนละ 6 หลักก็อาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะ งั้นลองยกตัวอย่างเช่น เราอยากซื้อหนังสือเพิ่มอีกสัก 10 เล่ม แต่ถ้าไม่ได้เขียนไว้ก็คงจะซื้อแค่ 4 เล่มเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะลืมหรือไม่ก็มีเงินไม่พอด้วยนั้นเอง

เมื่อพูดถึงอิสรภาพทางการเงินแล้วคุณนึกถึงอะไร สำหรับเรามันคือการที่มีเงินใช้ตลอดถึงแม้จะไม่ได้ทำงานแต่ก็มีเงินใช้หรือที่เรียกกันว่า passive income นั่นแหละ ถ้าหาเงินมาได้เยอะๆ แต่ไม่ได้ใช่ก็ดูเหมือนคนไม่มีเงิน ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นเพราะการที่เราได้เงินเดือนมาแล้วไม่ได้ใช้หรือไม่กล้าที่จะใช้เงินส่วนนั้นเพราะอะไร กลัวเงินไม่พอหรือป่าว หรือเพราะอยากเก็บเงินไว้เยอะๆและใช้น้อยๆ ถ้าคุณกำลังเป็นแบบนั้นแสดงว่าคุณยังไม่มีอิสรถาพทางด้านการเงินค่ะ เพราะถ้าเรามีอิสรภาพตรงนั้นแล้วละก็ เราจะไม่ต้องมากังวลว่าจะมีเงินไม่พอใซื้อข้างซื้อของที่จำเป็นและไม่จำเป็นอีกเลย เพราะอิสรภาพทางการเงินก็คือการได้เงินแบบ passive income นั้นเองที่เราจะได้เงินจากส่วนนี้ทุกๆ เดือน บางคนอาจจะสงสัยว่างานที่เราทำอยู่นั้นเป็น passive income หรือป่าว เรามาด๔กันค่ะ งานประจำที่คนส่วนใหญ่ทำกัน คือ เข้างานเช้าเลิกตอนเย็นหรือค่ำๆ บางคนต้องทำงานล่วงเวลาด้วยก็เพื่อให้ได้เงินเยอะขึ้น สิ่งนี้เราเรียนว่า ative income คือการที่เราใช้แรงและเวลาที่เรามีไปแลกกับเวลาที่เรามีแทน นั้นคือ active income ส่วนรายได้แบบ passive income นั้น คือ การที่เราได้เงินมาจากทรัพย์สินที่เรามีนั้งเองค่ะที่เป็นตัวทำเงินให้กับเราถึงแม้จะไม่ได้ทำงานในส่วนนั้นแต่ก็ยังมีรายรีบอยู่ แต่ว่าได้รายรับแบบ passive เราก็ต้องทำงานกันอย่างหนักก่อนนะถึงจะได้มันมา เพราะต้องสร้างสิ่งๆ หนึ่ที่มีมูลค่าที่สามารถให้ผลตอบแทนเราได้ถึงแม้จะไม่ได้ทำงานในส่วนนั้น และนี้คือสิ่งที่หนังสือเล่มนี้ได้แนะนำเราว่าเกษียณยังไงให้ตัวเองสบาย ไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องเงินๆ ทองๆ ยามแก่ตัวลงนั้นเอง

#BOOK